มีหลายคนไม่น้อยที่งงกับการตั้งชื่อคอร์สออนไลน์ที่ต่อท่ายด้วย 101 อย่างเช่น…
Google Adword 101
Google Analytic 101
หรือแม้วงการกูรูสาย Facebook อย่างเช่น
Facebook Advertising 101
สอนยิงแอดขั้นเทพ 101
Inbound Marketing 101
Ads Optimization 101
สายงานสัมมนาต่างๆก็ใช้กันเยอะใช่เล่นเลย
การเงิน 101
ประกันชีวิต 101
คอร์สการเย็บ 101
UX 101
SEO 101
Startup 101
Influencer 101
ที่มาของตัวเลข 101 คือ เมื่อปี ค.ศ. 1929 มหาลัย University of Buffalo เป็นผู้ริเริ่มแทนรหัสวิชาต่างๆด้วยเลข 3 ตัวเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ใช้ตามมาเรื่อย ๆ ผลวิจัยออกมาว่าการใช้รหัสวิชาแบบนี้ทำให้การจัดกลุ่มวิชาของทุกที่มีระบบมากขึ้นเมื่อนักศึกษาย้ายมหาลัย ทำให้การโอนหน่วยกิตทำได้ง่าย เพราะใช้หลักการเดียวกัน แม้ชื่อวิชาจะตั้งซัสวยหรู แต่กำกับด้วยรหัสเป็นอันรู้กัน
โดยรหัสวิชา 3 ตัว นี้มีหลักการตั้งคือ
เลขหลักแรก: ชั้นปี เช่นปีที่ 1 ก็แทนเลข 1
เลขหลักที่สอง: รหัสรายวิชา เช่น (ภาษาอังกฤษ เลข 1) (วิทยาศาสตร์ เลข 2) (คณิตศาสตร์ เลข 3)
เลขหลักที่สาม: ระดับขั้นของวิชาเรียน ซึ่งเริ่มจากเลข 0 เช่น Introduction หรือ Basic
ด้วยเหตุนี้เอง กระทรวงศึกษาธิการของไทยเรา ก็ประกาศใช้ “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑” เพื่อกำหนดรหัสวิชาของทุกสถานศึกษาให้เหมือนกันทั้งหมดจ้าาา
ตัวอย่าง มหาวิทยาลัยมหิดล ก็มีรหัสวิชา SCBM101 BASIC INFORMATION LITERACY
มาต่อกันที่ LOL หรือ lol ตัวพิมพ์เล็ก นอกจาก 101 แล้วในภาษาอังกฤษยังใช้ตัวอักษร L แทนเลข 1 ได้ด้วย สำหรับคนไทยอาจจะดูใหม่ แต่ต่างชาติใช้กันค่อนข้างบ่อยในการแชทคุยกัน โดยความหมายของ LOL หรือ lol (อ่านว่า แอล-โอ-แอล) หมายถึง (phrase slang) ย่อมาจาก Laughing Out Loud หมายถึง กำลังหัวเราะ ขำกลิ้งด้วยความสุข
ดังนั้นจึงมีเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม หรือชื่อสินค้าบางอย่าง จะมีตัวเลข 101 ที่สื่อถึง LOL ด้วยเช่นกันจ้าาา