มีเอเจนซี่ไทยหลายเจ้าที่อ้างว่าเป็น Google Partner และแสดงป้ายสัญลักษณ์ Google Partner และ Premier Google Partner ทั้งใน PoerPoint พรีเซ็นต์และในเว็บไซต์ ผมกดดูก็เป็นแค่รูปภาพเฉยๆ ไม่ได้ลิ้งเชื่อมโยงไปยังหน้า certificate ของ Google เลย อันที่จริงการได้มาซึ่ง Google Partner นั้นก็เหมือนการติด DBD Registered กับ DBD Verified ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นั้นแหละครับ คือ ป้ายสัญลักษณ์จะต้องลิ้งไปยังหน้า certificate เราเรียกป้ายแบบนี้ว่า “ป้ายแบบไดนามิก” ถึงจะถูกต้องตามหลักการติดตั้งครับ มี Agency ไม่กี่บริษัทที่ติดถูกต้อง หรือกล้างแสดงตนว่าเป็น Google Partner ที่แท้จริง ไม่ได้แอบอ้างเอาป้ายมาแปะหลอกลูกค้าตาดำๆอย่างเรา
มาเข้าเรื่องที่จะเล่าให้ฟังกันครับ การจะเป็น Partner กับ Google นั้นไม่จำเป็นต้องเปิดบริษัท จัดตั้งเป็น Agency เป็น Freelance อย่างเราๆก็สามารถขอป้ายสัญลักษณ์ Google Partner ได้หมด เพียงแค่มีที่อยู่ชัดเจน มีชื่อเรียก Studio และเป็นไปตามเงื่อนไขที่จะเล่าต่อไปนี้ครับ
ป้ายมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบแสดงอยู่ด้านล่าง ดังนี้
ป้าย Google Partner | ป้าย Premier Google Partner |
ข้อกำหนดเกี่ยวกับป้าย Partner
เกณฑ์ | ป้าย Partner [ปัจจุบัน] | ป้าย Partner [ในปี 2021] |
ประสิทธิภาพของบริษัท | มีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดโดยแสดงให้เห็นรายได้จากโฆษณาและการเติบโตโดยรวมที่มั่นคง รวมถึงรักษาและขยายฐานลูกค้าได้
พาร์ทเนอร์จะประเมินบัญชีลูกค้าที่ลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการของคุณในช่วงเวลา 18 เดือน ทั้งนี้ Partners กำหนดให้บัญชีดูแลจัดการต้องมีการใช้จ่ายอย่างน้อย 12 เดือน |
มีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดโดยใช้ Google Ads ในการตั้งค่าและเรียกใช้แคมเปญอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
พาร์ทเนอร์ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม “คำแนะนำ” ทั้งหมดหรือได้คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพเต็ม 100% เพื่อให้ผ่านข้อกำหนดการรับป้าย Google Partner แบบใหม่ เนื่องจากเกณฑ์คะแนนสำหรับการรับป้าย Google Partner แบบใหม่คือ 70% คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพมีไว้เพื่อช่วยให้ลูกค้าทำความเข้าใจว่าแคมเปญของตนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงหรือไม่ รวมถึงเพื่อแนะนำวิธีการปรับปรุงที่นำไปใช้ได้จริง เราพบว่าผู้ลงโฆษณาที่มีคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพในระดับบัญชีเพิ่มขึ้น 10 คะแนนจะมี Conversion เพิ่มขึ้น 10% โดยเฉลี่ย¹ ไปที่แท็บ “คำแนะนำ” เพื่อดูการดำเนินการที่คุณทำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพได้ หมายเหตุ: เราจะประเมินคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่คำนึงถึง “คำแนะนำ” ที่ปิดเพื่อช่วยให้บริษัทเป็นไปตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำแนะนำ |
การใช้จ่าย | มีการใช้จ่ายค่าโฆษณาจำนวน $10,000 USD ในช่วง 90 วันตามข้อกำหนดในบัญชีที่จัดการทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการดำเนินงานในระดับที่เหมาะสม | มีการใช้จ่ายค่าโฆษณาจำนวน $20,000 USD ในช่วง 90 วันตามข้อกำหนดในบัญชีที่จัดการทั้งหมด เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการดำเนินงานในระดับที่เหมาะสม |
การรับรอง | บริษัทต้องมีผู้ใช้ 1 คนที่ผ่านการรับรอง Google Ads และมีสิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบหรือระดับมาตรฐานในบัญชีดูแลจัดการ Google Ads ของบริษัทหรือบัญชีที่ลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการ Google Ads ของบริษัทซึ่งลงทะเบียนกับ Google Partners
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำให้การรับรองของผู้ใช้มีผลต่อป้าย Partner ของบริษัท |
บริษัทต้องมีผู้ใช้อย่างน้อย 50% ซึ่งมีสิทธิ์และได้รับการรับรองที่อัปเดตจาก Skillshop ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรอง Google Ads |
1ข้อมูลภายในของ Google สำหรับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาเท่านั้น
ข้อกำหนดการรับป้าย Premier Partner
เกณฑ์ | ป้าย Premier Partner [ปัจจุบัน] | ป้าย Premier Partner [ในปี 2021] |
ประสิทธิภาพของบริษัท | มีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดโดยแสดงรายได้จากโฆษณาและการเติบโตโดยรวมที่มั่นคง รวมถึงรักษาและขยายฐานลูกค้า |
บริษัทต้องได้รับป้าย Partner ใหม่ก่อนจึงจะมีสิทธิ์ได้รับสถานะ Premier Partner ในปี 2021 จากนั้นโปรแกรม Google Partners จะให้สถานะ Premier แก่บริษัทชั้นนำ 3% จากบริษัททั้งหมดที่เข้าร่วมโปรแกรมในแต่ละปีปฏิทิน เราเลือก Premier Google Partner โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการใช้จ่ายรายปีใน Ads ในบัญชีที่จัดการ การเติบโตของลูกค้า การคงลูกค้าไว้ และข้อมูลอื่นๆ เราทำการประเมินทุกปีและสถานะอาจใช้ไม่ได้ในตลาดบางแห่ง |
การใช้จ่าย | มีการใช้จ่ายตามข้อกำหนดที่สูงขึ้นในบัญชีที่จัดการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการดำเนินงานในระดับที่เหมาะสม | |
การรับรอง | ผู้ใช้อย่างน้อย 2 คนผ่านการรับรอง Google Ads และมีสิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบหรือระดับมาตรฐานในบัญชีดูแลจัดการ Google Ads หรือบัญชีดูแลจัดการย่อยของบริษัท |
ข้อกำหนดการรับรอง [ป้าย Partner ปัจจุบัน] | ข้อกำหนดการรับรอง [ป้าย Partner ปี 2020] |
บริษัทต้องมีผู้ใช้ 1 คนที่ผ่านการรับรองใน Google Ads และผู้ใช้ดังกล่าวต้องมีสิทธิ์การเข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบหรือระดับมาตรฐานในบัญชีดูแลจัดการ Google Ads ของบริษัท หรือในบัญชีที่ลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการ Ads ของบริษัทซึ่งลงทะเบียนกับ Google Partners | บริษัทต้องมีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์อย่างน้อย 50% ซึ่งผ่านการรับรองที่อัปเดตจาก Skillshop นอกจากนี้ บริษัทยังต้องมีผู้ใช้ที่ผ่านการรับรองอย่างน้อย 1 คนในแต่ละช่องทางที่ผู้ใช้คนดังกล่าวใช้จ่ายด้วย |
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรอง Google Ads
วิธีเลือกใช้ป้าย
ป้ายแบบไดนามิกจะแสดงชื่อเอเจนซีของคุณและความเชี่ยวชาญพิเศษเมื่อมีคนวางเมาส์บนจุดที่มุมบนขวา
คุณต้องใช้ป้ายแบบไดนามิกในเว็บไซต์บริษัทและโดเมนอื่นๆ ที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทเพิ่มเป็นไซต์สำหรับแสดงป้ายเท่านั้น |
ป้ายแบบคงที่จะแสดงรายการความเชี่ยวชาญพิเศษที่บริษัทของคุณได้รับด้านล่าง
คุณต้องใช้ป้ายแบบคงที่ในสื่อสิ่งพิมพ์ทางการตลาดและพร็อพเพอร์ตี้ออนไลน์ เช่น หน้าโซเชียลมีเดียและสื่ออื่นๆ | |
คุณไม่สามารถใช้ป้ายแบบคงที่ในเว็บไซต์บริษัทหรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่ผู้ดูแลระบบของบริษัทเพิ่มเป็นโดเมนเพิ่มเติมสำหรับแสดงป้าย |
สรุป การที่จะเป็น Google Partner ได้นั้น
1. มีคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างน้อย 70% ซึ่งแสดงว่าเอเจนซีนี้สร้างบัญชีลูกค้าที่มีประสิทธิภาพดี
2. มีค่าใช้จ่ายค่าโฆษณาอย่างน้อย 300,000 บาทในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการช่วยลูกค้ามองหาโอกาสเติบโตอย่างสม่ำเสมอและสร้างความสำเร็จในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
3. มี Account Strategist อย่างน้อย 3 คน และอย่างน้อย 50% ในกลุ่มนี้ได้แสดงทักษะความสามารถด้าน Google Ads ด้วยการได้รับการรับรอง Google Ads
ป้าย Google Partner จะต้องคลิกแล้วลิ้งไปที่ URL ของ Google Partner จริงๆ ไม่ใช่เอา Logo Google Partner มาแปะไว้หลอกๆ เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นก็แสดงว่ามีคุณสมบัติไม่ผ่านเงื่อนไข ป้ายจึงถูกถอดออกไปแล้ว
Link URL Google Partner ก็จะเป็นแบบนี้ >> https://www.google.com/partners/agency?id=99999999 ตามด้วยตัวเลข ID
.